ไหว้พระขอพร  9 วัดดัง คู่เมืองเชียงใหม่

1.วัดพระธาตุดอยคำ
วัดพระธาตุดอยคำ มีอายุเก่าแก่ถึง 1300 ปี ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของตัวเมือง ห่างออกไปประมาณ 15 กิโลเมตร
ตามตำนานพระเจ้าเลียบโลก กล่าวไว้ว่า เดิมทีมียักษ์อยู่ 2 ตน คอยปกปักษ์รักษาผืนดินผืนป่าแถบนี้ มีชื่อว่า ปู่แสะ ย่าแสะ วันนึง พระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดยักษ์ทั้งสองตน ให้เลิกเข่นฆ่าผู้คน โดยทรงให้พระเกษาธาตุไว้กับยักษ์ทั้งสองเป็นเครื่องเตือนใจ ปัจจุบันถูกบรรจุไว้ในตัวพระธาตุดอยคำ ถ้าสังเกตุ บริเวณตีนเขาดอยคำ จะมีศาลาของยักษ์ ปู่แสะ ย่าแสะ ตั้งอยู่ ทุกๆปี ชาวบ้านจะทำพิธีเซ่นไหว้ปู่แสะ ย่าแสะ เพื่อให้ฟ้าฝนตกตามฤดูกาล 


ประวัติวัดพระธาตุดอยคำ
สร้างในรัชสมัยพระนางจามเทวีกษัตริย์แห่งอาณาจักรหริภุญชัย (ลำพูนในปัจจุบัน) โดยพระโอรสทั้ง 2 เป็นผู้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1230 ภายในวัดประกอบด้วยเจดีย์บรรจุพระเกษาธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งรูปทรงขององค์เจดีย์มีลักษณะเหมือนกับพระธาตุของวัดพระธาตุดอยสุเทพ ในวัดยังมีพระรอดหลวง (อายุ 1,365 ปี) ซึ่งถูกค้นพบตอนที่กรุแตก ซึ่งในโลกนี้มีเพียง 2 องค์เท่านั้น คือที่วัดมหาวัน กับวัดดอยคำ และที่สำคัญที่สุด คือ พระเจ้าทันใจ (อายุ 665 ปี) สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ากือนา สร้างตามความเชื่อของชนชาวล้านนา โดยจะต้องสร้างให้แล้วเสร็จภายในวันเดียว นับตั้งแต่ตะวันขึ้นและต้องให้เสร็จก่อนตะวันตกดิน จึงเป็นที่มาของความเชื่อว่า ท่านประทานความสำเร็จได้แบบรวดเร็วทันใจ ซึ่งโด่งดังมาจากการขอพรดอกมะลิ ที่ผู้คนหลั่งไหลมาสักการะกราบไหว้ตลอดเวลาไม่ขาดสาย 


ไฮไลท์สำคัญ
ขอพร หลวงพ่อพระเจ้าทันใจ เพียงแค่บนบานด้วยพวงมาลัยดอกอมะลิเท่านั้น ซึ่งมีผู้คนมากมายประสบความสำเร็จ แล้วกลับมาแก้บนจำนวนมาก ทั้งถูกลอตเตอรี่ หายจากอาการเจ็บป่วย สมหวังกับหน้าที่การงาน จึงทำให้ทั้งวัดเต็มไปด้วยพวงมาลัยดอกมะลิ



2.วัดต้นเกว๋น
วัดต้นเกว๋น ตั้งอยู่ใกล้ๆกับวัดดอยคำ มีลักษณะเฉพาะตัว สร้างขึ้นจากไม้ แกะสลักตามแบบล้านนา ลานหน้าวัดเป็นลานทราย มีศาลาล้อมรอบตามแบบวัดในชนบท มีศาลาจตุรมุก อันโดดเด่นที่หาที่ไหนไม่ได้ โด่งดังมาพร้อมกับละครเรื่อง "กลิ่นกาสะลอง" เหมาะมากกับการถ่ายรูปในแบบย้อนยุค


ประวัติวัดต้นเกว๋น
สร้างขึ้นสมัยระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ (พ.ศ. 2399-2412) สมัยนั้นบริเวณนี้ มีต้นเกว๋น ขึ้นอยู่จำนวนมาก จึงเป็นที่มาของชื่อวัด วัดต้นเกว๋น เป็นลักษณะสถาปัตยกรรม ที่แสดงออกถึงแบบแผนทางศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมล้านนา ที่งดงามและทรงคุณค่ายิ่ง สร้างโดยใช้ไม่สลัก ไม่ใช้ตะปู  แม้จะได้รับการบูรณะซ่อมแซม แต่ยังคงไว้ซึ่งศิลปะแบบดั้งเดิม โดยวัดนี้ถูกยกให้เป็นต้นแบบในการก่อสร้างวัดต่างๆในระยะหลังสืบมา



ไฮไลท์สำคัญ
ตามรอยกาสะลอง เช่าชุดถ่ายรูปแบบล้านนาสไตล์ ในงบประมาณ 100-150 บาท มีให้เลือกหลากหลาย ไม่จำกัดเวลา เปลี่ยนชุด เกล้าผม เสียบดอกไม้ให้ฟรี ใช้เสร็จเปลี่ยนคืนทันที ไม่มีผูกมัด

3.วัดอุโมงค์
วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม) เป็นวัดดัง ในโซนหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีความร่มรื่น ไม่เหมือนวัดใด โดยเฉพาะอุโมงค์อายุกว่า 700 ปี และเจดีย์ทรงโบราณ ที่เดิมที เคยมีห้องลับที่มีทองคำจำนวนมากเก็บไว้
มากมาย มีคนเล่าว่า สมัยพม่าครองเมือง มีคนตั้งหม้อต้มทองกันในวัด รวมถึงเอาทองไปซื้อผักกันเลยทีเดียว


ประวัติวัดอุโมงค์
ถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้ากือนา (ประมาณ พ.ศ. 1910) ท่านมีความเลื่อมใสในพระมหาเถระจันทร์ พระเจ้ากือนาจึงสั่งให้คนบูรณะวัดเวฬุกัฏฐาราม เพื่ออาราธนาพระมหาเถระจันทร์จำพรรษาทีวัดแห่งนี้ และตั้งชื่อวัดนี้ว่า “วัดอุโมงค์เถรจันทร์”  เดิมทีพระมหาเถระจันทร์ ธุดงด์อยู่ในป่า ในถ้ำ บนดอยสุเทพ ทำให้ยากต่อการติดตามตัวมาเพื่อสนทนาธรรม พระเจ้ากือนาทรงสร้างวัดและอุโมงค์ ให้เหมือนป่าและถ้ำ เพื่อให้พระมหาเถระจันทร์ ได้จำพรรษาที่วัดแห่งนี้


ไฮไลท์สำคัญ
เดินชมอุโมงค์ ที่แปลกตา ไม่เหมือนที่ไหน ถ่ายรูปแนววินเทจ พื้นหลังหญ้ามอส ในช่วงหญ้าฝน (มิถุนายน - ตุลาคม)

4.วัดสวนดอก
วัดดังในโซนสวนดอก ใกล้ๆกับสนามบิน มีวิหารหลวงขนาดใหญ่ ที่ไม่เหมือนที่ใด บริเวณวัดค่อนข้างกว้างเพราะเป็นมหาลัยของพระสงฆ์ มีสุสานเจ้านายฝ่ายเหนือ โกฐิสีขาวรายล้อมตัดกับเจดีย์สีทองอร่าม ตัดกับเส้นขอบฟ้า เป็นอีกวิวสวยงามในการถ่ายรูปเลยทีเดียว



ประวัติวัดสวนดอก
วัดสวนดอกสร้างขึ้นในสมัย พระเจ้ากือนา (พ.ศ. 1914) เดิมทีเป็นอุทยาน หรือสวนดอก ของราชวงค์ล้านนา มีเจดีย์สีทององค์ใหญ่ ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีเรื่องเล่าว่า มีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาจากเมืองศรีสัชนาลัย ครั้นมาถึงที่วัดสวนดอก ได้แตกจากหนึ่งออกเป็นสอง จึงได้บรรจุชิ้นแรกไว้ในพระธาตุของวัดสวนดอก ส่วนชิ้นที่สอง บรรจุไว้ในพระธาตุของวัดพระธาตุดอยสุเทพ 


ไฮไลท์สำคัญ
สักการะ องค์พระธาตุเจดีย์ประธาน ภายในบรรจุพระธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นมัสการพระเจ้าเก้าตื้อ ขอพรให้ได้ลูกชาย ลูกสาว หล่อๆ สวยๆ

5.วัดพระธาตุดอยสุเทพ
ตามประวัติแห่งดอยสุเทพนั้นเชื่อกันว่า เดิมภูเขาแห่งนี้เป็นที่อยู่ของฤาษีนามว่า "สุเทวะ" (เชื่อว่าเป็นลูกของปู่แสะ ย่าแสะ แห่งวัดดอยคำ) ซึ่งตรงกับคำว่าสุเทพอันเป็นที่มาของชื่อดอยสูงแห่งนี้ วัดพระธาตุดอยสุเทพตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองเชียงใหม่ อยู่คู่ฟ้าคู่ดินเชียงใหม่มายาวนาน ผู้ที่เดินทางมาสักการะที่วัดแห่งนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่ ได้อย่างชัดเจน นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นบันไดนาคไป 300 ขั้น เพื่อไปยังวัด หรือใช้บริการรถกระเช้าขึ้น-ลงดอยสุเทพได้


ประวัติวัดพระธาตุดอยสุเทพ
วัดพระธาตุดอยสุเทพนี้ สร้างขึ้นในสมัยพญากือนา (พ.ศ. 1927)  สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุชิ้นที่สอง (ชิ้นแรกเก็บไว้ที่วัดสวนดอก) โดยอัญเชิญพระธาตุขึ้นบนหลังช้างเผือก เพื่อเสี่ยงทายแต่แล้ว ช้างเผือกได้ปีนขึ้นดอยสุเทพ แล้วล้มลงสิ้นใจ ในที่สุด จึงได้สร้างองค์เจดีย์ขึ้นบริเวณนั้น และทำอนุสาวรีย์ช้างเผือกไว้เพื่อระลึกถึงช้างเผือกเชือกนั้นอีกด้วย


ไฮไลท์สำคัญ
นมัสการครูบาเจ้าศรีวิชัย พร้อมวัดใจด้วยการเดินขึ้นบันได 300 ขั้น เพื่อขึ้นไปนมัสการองค์พระธาตุ
ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีมะแม เดินวนขวาสามรอบ กราบพระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แขวนระฆังพร้อมเขียนชื่อ เพื่อความเป็นศิริมงคล

6.วัดเจ็ดยอด
วัดดังในย่านเจ็ดยอด ถือว่าเป็นพระธาตุประจำปีของคนเกิดปีมะเส็ง มีลักษณะแปลกตาไม่เหมือนวัดใด เนื่องจากสร้างแบบจำลองมาจาก พุทธคยา ในประเทศอินเดีย สถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ ภายในวัดยังได้มีการจำลองเหตุการณ์ 7 สัปดาห์หลังการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าไว้ให้เรียนรู้ โดยมีต้นศรีมหาโพธ์เก่าแก่ ที่นำหน่อมาจากศรีลังกา ปลูกไว้ด้านหลังองค์เจดีย์อีกด้วย


ประวัติวัดเจ็ดยอด
คาดว่าบูรณะขึ้นในสมัยของพระเจ้าติโลกราช (พ.ศ.1998) สร้างโดยใช้ศิลาแลงก่อสร้างขึ้น เป็นอีกวัดหนึ่งที่สำคัญ เนื่องจากเป็นสถานที่ทำสังคายนาพระไตยปิฏกครั้งแรกของไทย


ไฮไลท์สำคัญ
กราบพระขอพร ถวายงูเล็ก สำหรับคนที่เกิดปีมะเส็ง ถวายไม้ค้ำยันต้นศรีมหาโพธิ์ เพื่อความเป็นศิริมงคล

7.วัดเกตุการาม
พระธาตุวัดเกตุการาม ถูกกำหนดให้เป็นองค์แทนเจดีย์จุฬามณี ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีจอ ถ้าได้ลองสังเกตยอดเจดีย์พระธาตุวัดเกตการาม จะเห็นว่าเอียงเล็กน้อย เป็นความตั้งใจของผู้สร้าง ตามความเชื่อโบราณที่ว่าการสร้างเจดีย์ที่ มียอดชี้ตรงไปยังสวรรค์อันเป็นที่ตั้งของพระธาตุเกศแก้วจุฬามณีนั้น ถือเป็นการไม่สมควร


ประวัติวัดเกตุการาม
เป็นวัดเก่าแก่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าสามฝั่งแกน (พ.ศ. 1971) เดิมทีแถบนี้เป็นชุมชนค้าขายของชาวจีน จึงมีส่วนสำคัญให้พระอุโบสถ มีลักษณะโดดเด่นไม่เหมือนใคร


ไฮไลท์สำคัญ
ไหว้พระธาตุขอพร ถวายตุ๊กตาประจำปีเกิด โดยเฉพาะคนที่เกิดปีจอ เดินชมของเก่าที่พิพิธภัณฑ์พื้นเมืองโบราน ถ่ายรูปแนววินเทจ พื้นหลังพระอุโบสถเก่าแก่

8.วัดพระสิงห์
วัดพระสิงห์ หรือมีชื่อเต็มว่า วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ตั้งอยู่กลางเมืองเลยทีเดียว มีเจดีย์สีทองอร่ามองค์ใหญ่ ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีมะโรง ทุกปีเมื่อถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์หรืองานประเพณีปี๋ใหม่เมือง ทางราชการ จึงได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ขึ้นประดิษฐานบนรถบุษบกแห่ไปรอบเมืองเพื่อให้ศรัทธา ประชาชนได้พากันมา สรงน้ำเนื่อง ในเทศกาลปีใหม่  


ประวัติวัดพระสิงห์
สร้างขึ้นสมัยพญาผายู (พ.ศ. 1888) เดิมชื่อว่า "วัดลีเชียงพระ" ต่อมาประมาณ พ.ศ. 1943 ได้มีการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ จากเชียงราย เดิมทีตั้งใจจะนำไปไว้ที่วัดสวนดอก แต่ระหว่างทาง ขบวนเกิดติดหล่มที่หน้าวัดลีเชียงพระ พญาแสนคำเมืองเลยตัดสินพระทัย นำพระพุทธสิหิงค์ประดิษฐานที่วัดนี้แทน แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นวัดพระสิงห์ ต่อมา ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ ยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิด วรมหาวิหาร ในปี พ.ศ. 2483 ตรงกับรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อานันทมหิดล รัชกาลที่ 8


ไฮไลท์สำคัญ
นมัสการพระพุทธสิหิงค์ สักการะพระธาตุประจำปีเกิด ของคนเกิดปีมะโรง ชมหุ่นขี้ผึ้งพระอรหันต์ของชนชาวไทย ชมความงดงามของวิหารลายคำ พร้อมภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณ


9.วัดเจดีย์หลวง
วัดเจดีย์หลวง ตั้งอยู่ใจกลางเมือง  มีองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ ความกว้างด้านละ 60 เมตร ตั้งเด่นเป็นสง่า ซึ่งแต่เดิมถือว่าเป็นศูนย์กลางทางการปกครองของ อาณาจักรล้านนา ปัจจุบันเป็น Land mark สำคัญของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมี งานจัดพิธีถวายดอกอินทขินบูชาศาลหลักเมืองในทุกๆปีอีกด้วย


ประวัติวัดเจดีย์หลวง
พระธาตุเจดีย์หลวงนั้นถูกสร้างขึ้นในในรัชสมัยพญาแสนเมืองมา (พ.ศ. 1928 - 1945) สร้างขึ้นเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้พญากือนา พระราชบิดา มีการสร้างและบูรณะอยูหลายสมัย ต่อมาเกิดพายุฝนตกหนัก แผ่นดินไหว พระมหาเจดีย์หลวงได้พังทลายลงมาเหลือเพียงครึ่งองค์ 


ไฮไลท์สำคัญ
เดินชมความยิ่งใหญ่ ขององค์พระธาตุเจดีย์หลวง กราบพระขอพร พระอัฏฐารส ปิดทองโมเดลพระธาตุประจำปีเกิด เดินชมหอธรรมและพิพิธภัณฑ์ สักการะเสาหลักเมืองเชียงใหม่